Hint Magazine
สำหรับผู้ที่รักการวิ่ง วันนี้ได้ออกไปวิ่งออกกำลังที่ไหนกันหรือยังค่ะ ในครั้งนี้เราจะมาพูดถึง การดูแลรักษารองเท้าวิ่ง ที่หลายคนอาจเจอปัญหารอยเปื้อน และกลิ่นอับในรองเท้าอยู่เป็นประจำ... ดังนั้นการรักษารองเท้าคู่ใจให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน ก็เป็นสิ่งสำคัญในการวิ่งเช่นกันค่ะ!
ความสำคัญ ในการดูแลรักษารองเท้าวิ่งคือ?
อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ โดยเฉพาะรองเท้าวิ่งที่ใช้งานอยู่ ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูใหม่สภาพดี ไร้รอยเปื้อนก็ตาม แต่รองเท้าวิ่งจะมีการสะสมของเหงื่อไคลอยู่ในปริมาณที่มาก และมากกว่ารองเท้าที่เราใช้งานปรกติในชีวิตประจำวันค่ะ ดังนั้นการทำความสะอาด เอาคราบเหงื่อออกจากรองเท้า จะช่วยลดและป้องกันการเกิดเชื้อราและแบคทีเรีย และยังช่วยให้ยืดอายุการใช้งานของรองเท้าให้ยาวนานขึ้นด้วยค่ะ
แต่ทว่า จะให้ล้างทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากการวิ่งออกกำลังกายนั้น แค่คิดก็ปวดหัวแล้วใช่ไหมค่ะ จึงขอแนะนำว่าให้เราทำความสะอาดประมาณอาทิตย์ละครั้งก็พอค่ะ ตามเวลาที่ตนถนัด นอกจากนั้นการนำแปรงมาปัดทำความสะอาดรองเท้าหลังการวิ่ง และนำรองเท้าไปเก็บไว้ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี การเพิ่มขั้นตอนการดูแลเหล่านี้เข้าไป ก็จะทำให้รองเท้าอยู่ในสภาพที่ดีมากขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
มาทดสอบกันดู!ว่าหลังจากใช้ไอเทมสำหรับดูแลรองเท้าวิ่งแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง
การเตรียมการก่อนเริ่มทำความสะอาด
เอาหล่ะมาเริ่มทำความสะอาดรองเท้าให้สะอาดกันค่ะ!ก่อนอื่น ใช้แปรงขัดเอาสิ่งสกปรกที่เกาะติดอยู่ตามรองเท้าออกก่อนค่ะ หากมีคราบโคลนติดอยู่ ควรรอให้โคลนแห้งก่อน ก่อนที่จะใช้แปลงขัดจะดีที่สุดค่ะเพราะคราบโคลนที่แห้งแล้ว จะหลุดออกได้ง่าย ใช้เวลาน้อยและไม่เปลืองแรงขัดค่ะ
ทำความสะอาดให้ทั่วตัวรองเท้า
เมื่อใช้แปรงขัดด้านนอกเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนต่อไป คือการทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดค่ะ น้ำยาทำความสะอาดรองเท้าadidas clean up มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดรองเท้าทั้งรองเท้าหนังแท้และเที่ยม รวมถึงรองเท้าผ้าใบด้วยค่ะ นอกจากนั้นยังสามารถทำความสะอาดด้านในและด้านนอกรองเท้า รวมถึงเชือกผูกรองเท้าด้วย พูดได้ว่าอันเดียวทำความสะอาดได้ทุกจุด สุดยอดไปเลย! เมื่อขัดเสร็จแล้วนำไปล้างด้วยน้ำเปล่า แค่นี้รองเท้าของท่านก็จะกลับมาอยู่ในสภาพเหมือนใหม่เลยทีเดียว
adidas น้ำยาทำความสะอาดสำหรับรองเท้า clean up ราคา 1,200 เยน +ภาษี
เมื่อทำความสะอาดเสร็จ ก็มาถึงขั้นตอนการทาน้ำยากันน้ำและสิ่งสกปรกกันต่อเลย
หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว ให้นำรองเท้าไปตากให้แห้ง ก่อนนำมาทาน้ำยาเคลือบป้องกันน้ำและสิ่งสกปรก ด้วยน้ำยาเคลือบรองเท้ากันน้ำ adidas Stop H2O น้ำยานี้นอกจากจะช่วยปกป้องและดูแลส่วนบนของรองเท้าแล้ว ยังสามารถทาเคลือบบริเวณส่วนขอบพื้นรองเท้า เพื่อเพิ่มการป้องกันรอยเปื้อนบริเวณขอบรองเท้า ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นด้วยค่ะ
adidas น้ำยาเคลือบรองเท้ากันน้ำ Stop H2O ราคา 1,400 เยน+ภาษี
เปรียบเที่ยบ ก่อนและหลังการทำความสะอาด
มาดูเปรียบเที่ยบกันค่ะว่า ระหว่างรองเท้าด้านซ้ายมือ ที่ผ่านการทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว กับด้านขวามือที่ไม่ได้ทำความสะอาด จะเห็นความแตกต่างเลยว่า บริเวณขอบพื้นรองเท้า มีความขาวสะอาดกว่าอย่างชัดเจน และสะอาดไปจนถึงด้านในของรองเท้า จนไม่กล้าจะเอาออกไปวิ่งเลยใช่ไหมค่ะ!
กำจัดกลิ่นอับด้วยสเปร์และแท่งดับกลิ่นกันค่ะ
รองเท้าที่ผ่านการใช้งานมาบ้างแล้ว มักจะมีเรื่องของกลิ่นอับตามมาเสมอ และปัญหานั้นจะหมดไป ด้วยสเปรย์ดับกลิ่นรองเท้า adidas re fresh สเปรย์ดับกลิ่นรองเท้าที่ออกแบบมาใช้งานง่าย เพียงแค่วางส่วนหัวลงไปในรองเท้าด้านในและกดลงไปเท่านั้น รองเท้าของคุณก็จะกลับมามีกลิ่นสดชื่นน่าใช้งานอีกครั้งค่ะ
adidas สเปรย์ดับกลิ่นรองเท้า re fresh 1,200 เยน+ภาษี
และอีกอันหนึ่งที่ขาดไม่ได้ ในการกำจัดกลิ่นอับให้หายขาด นั้นคือ แท่งดับกลิ่น adidas re fresh deo stick เพียงนำไปวางไว้ด้านในรองเท้า ในกล่อง ล็อคเกอร์ หรือถุงใส่รองเท้าเวลาพกพาไปข้างนออก แค่นี้ก็หมดห่วงเรื่องกลิ่นอับในรองเท้ากันได้เลยค่ะ
adidas แท่งดับกลิ่น re fresh deo stick 1,200 เยน+ภาษี
สุดท้ายนี้
เมื่อรองเท้าวิ่งของเราสะอาดแล้ว ยิ่งจะทำให้เราอยากออกไปวิ่งมากขึ้นโดยอัตโนมัติค่ะ อย่าลืมดูแลทำความสะอาดรองเท้าวิ่ง เพื่อความสุขเต็มที่ กับการออกวิ่งในทุกๆวันนะคะ
※สินค้าที่แนะนำในบทความอาจไม่มีจำหน่ายในบางสาขา หากต้องการทราบข้อมูลรายละเอียดกรุณาสอบถาม ณ สาขาที่ท่านสะดวก
※ในบางสาขา สินค้าที่แนะนำนั้นอาจใช้วิธีสั่งจากสาขาอื่นให้มาส่ง
※อาจมีการเปลี่ยนแปลงราคา รูปร่างหน้าตาสินค้า หรือมีจำนวนจำกัด
※ในรูปประกอบบทความมีการใช้สินค้าตัวอย่างสำหรับแสดงอยู่ด้วย